7 ต.ค. 2557

Work Party

ALIGNMENT PARTY และ TRAVERSE PARTY (ดูรูปที่1ประกอบ)
ลักษณะงานคลายกันจะกลาวรวมกันไป  
1) หัวหนาหนวยสํารวจ ( Party Chief )
2) คนจดสมุดสนาม ( Recorder )
3) คนสองกลอง( Instrument Man )
4) ผูชวยคนสองกลองหรือคนสองหมุดหนา ( Assistance Instrument Man )
5) คนดิ่งเทป ( Chainman )



รูปที่ 1










                        


BENCH MARK AND PROFILE LEVELING PARTY (ดูรูปที่2ประกอบ)
1) คนสองกลอง( Instrument Man )
2) คนจดสมุดสนาม  ( Recorder )
3) คนถือไมสตาฟ ( Rod Man )

รูปที่ 2
                       
 CROSSSECTION PARTY (ดูรูปที่3ประกอบ)
1) คนสองกลอง( Instrument Man )
2) คนจดสมุดสนาม ( Recorder )
3) คนถือไมสตาฟ ( Rod Man )
รูปที่ 3











                           
TOPOGRAPHIC PARTY (ดูรูปที่4ประกอบ)
1) คนสองเครื่องมือสองฉาก( Rod Man )
2) คนจดสมุดสนาม ( Recorder )

รูปที่ 4















                             

ที่มา : http://design.drr.go.th/sites/design.drr.go.th/files/2.khantnkaarptibatingaan1-4.pdf (คู่มือปฎิบัติงาน
กระบวนการสํารวจออกแบบ และประมาณราคา)










แนวโค้ง

โค้งวงกลม ( CIRCULAR  CURVE )

รูปแสดงตัวอย่างโค้งวงกลม

ส่วนประกอบของเส้นวงกลม
ความหมายของตัวแปร
PI       คือ จุดสกัด หรือจุดตัดระหว่างแนวเส้นตรงสองแนว ที่มีการเชื่อมโยงด้วยโค้งแนวราบ
∆        คือ มุมบ่ายเบนที่จุด PI
T        คือ ระยะสัมผัสส่วนโค้ง
E        คือ ระยะจากจุดสกัดถึงจุดกึ่งกลางของโค้งแนวราบ
M       คือ ระยะจากกึ่งกลางของเส้นคอร์ดถึงจุดกึ่งกลางของ โค้งแนวราบ
L        คือ ความยาวโค้ง
C        คือ ความยาวของเส้นคอร์ด
R        คือ รัศมีโค้ง
PC      คือ จุดต้นโค้ง
PT      คือ จุดปลายโค้ง

รูปที่ 1.1

รูปที่ 1.2

รูปที่ 1.3

รูปที่ 1.4


ระดับโค้ง

รูปที่ 1.5
รูปที่ 1.6


ความสัมพันธ์ระหว่าง Deflection Angle, arc, chord

รูปที่ 1.8
โค้งดิ่ง Vertical Curve

รูปที่ 2.1 ตัวอย่างโค้งในแนวดิ่ง

รูปที่ 2.1 ตัวอย่างโค้งในแนวดิ่ง

-         โค้งที่ต่อเชื่อมระหว่าง grade line 2 เส้น
-         โค้งดิ่งปกติเป็นโค้ง Parabola
Vertical curve แบ่งเป็น 2 ประเภท
-         Symmetrical cure ระยะราบจาก PVC ถึง PVI เท่ากับ ระยะราบจาก PVT ถึง PVI
-         Unsymmetrical cure ระยะราบจาก PVC ถึง PVI จะไม่เท่ากับ ระยะราบจาก PVT ถึง PVI
Vertical curve แบ่งตามลักษณะการวางตัว
-         Sag vertical curve : โค้งหงาย โค้งกระทะหงาย
-         Crest vertical curve : โค้งคว่ำ โค้งกระทะคว่ำ


รูปที่ 2.3 สมการโค้งดิ่ง

-        การหาค่า Second difference

การหาจุดที่มีค่าระดับต่ำสุดหรือสูงสุดของโค้งดิ่งชนิดสมมาตร






โค้งดิ่งชนิดไม่สมมาตร (Unsymmetrical Vertical Curve)

รูปที่ 2.4 สมการโค้งดิ่งไม่สมมาตร
โค้งกลับทิศทาง : Reversed curve

รูปที่ 3.1 ตัวอย่างโค้งกลับทิศ


โค้งผสมที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ตรงข้ามกัน ประกอบด้วยโค้งสองโค้งมีจุด PRC (Point of reverse curve ) เป็นจุดร่วมหรือมีเส้นสัมผัสที่ต่อเชื่อมระหว่างโค้ง เรียกว่า เส้นโค้งผสม ( Intermediate tangent )
โค้งกลับทิศทางต่อกันที่จุด PRC
1.ประเภทที่   1 : รัศมียาวไม่เท่ากัน คำนวณเสมือนโค้งวงกลมสองงวงต่อกัน
2.ประเภทที่  2: รัศมียาวเท่ากัน คำนวณหารรัศมีที่ใช้กับทั้งสองโค้งได้


โค้งกลับทิศทางที่มีเส้นสัมผัสขนานกัน
   รัศมียาวเท่ากัน










รัศมียาวไม่เท่ากัน

โค้งผสม : Compound Curve

รูปที่ 4.1 ตัวอย่างโค้งผสม



โค้งที่ประกอบด้วยโค้งวงกลมและจุดศูนย์กลางหลายโค้งมาต่อกัน และจุดศูนย์กลางโค้งทั้งหมดจะอยู่ซีกเดียวกันของเส้นสัมผัส และรัศมีของโค้งที่เชื่อมต่อกันจะยาวไม่เท่ากัน จุดที่ความยาวโค้งต่อกันคือ Point of compound curve(PCC)
ส่วนสำคัญของโค้งผสม มุมของโค้งร่วม รัศมีของโค้งร่วม (R1)เส้นสัมผัสเส้นยาว/เส้นสั้น(TL/TS)และ  ชองโค้งผสม
ประโยชน์ของโค้งผสม
1.ใช้ในบริเวณที่เป็นภูเขาเพื่อปรับเส้นทาง ถนน ให้เข้ากับภูมิประเทศและเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร
2.ใช้ในบริเวณทางต่อเชื่อมระหว่างถนนและทางด่วน (Ramp) ที่บริเวณ ทางขึ้นหรือทางลง หรือใช้การออกแบบโค้งของทางแยกต่างระดับ (Interchange) โดยใช้ร่วมโค้งก้นหอย
3.ใช้ในการออกแบบช่องทางสำหรับเลี้ยวในกรณีที่ถนนสายหลักกับถนนสายรองมาตัดกัน